ความรู้เกี่ยวกับเครือข่ายสังคม
Social Network คือ สังคมออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณหาเพื่อนบนโลกอินเตอร์เน็ทได้ง่ายๆ เราสามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา เพื่อแนะนำตัวเองได้ เช่น Hi5 Friendster MySpace FaceBook Twitter BeboTagged เว็บ SNS (Social Network Site) เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเว็บที่สร้างขึ้นมาเพื่อการตอบสนองความต้องการในการ ติดต่อธุรกิจหรือหาเพื่อนบนโลกไซเบอร์ทั้งสิ้น
Hi5
hi5 หรือที่วัยรุ่นไทยอ่านว่า ไฮไฟว์ เป็นเว็บไซต์แบบที่เรียกว่าSocial Network ซึ่งhi5 เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด แห่งหนึ่งของโลก โดยระบบจะทำการแอดเมล์เพื่อนให้ รูปแบบทั่วไปภายใน Hi5 จะมีทั้งการโชว์รูปภาพ เพื่อฟรีเซ็นต์ตัวเอง เราได้แสดงความเป็นตัวตนของเราอย่างภาคภูมิใจ ด้วยการสร้างและตกแต่ง Hi5 ของเราด้วย ของแต่ง Hi5 ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ , Skin ,Wallpaper , ดุ๊กดิ๊ก , Cursor , ภาพเคลื่อนไหว และของแต่ง Hi5 อื่นๆ อีกมากมายมีพื้นที่ให้เขียนเรื่องราวส่วนตัวด้วย
Friendster
Friendster ได้ก้าวขึ้นมาสู่หัวแถวของ Social Network ในประมาณเดือนเมษายน ปี 2004 ก่อนจะถูกไล่แซงโดย My Space ในเรื่องของผู้เข้าชมและจากการจัดอันดับของ Nielsen//NetRatings Frienster ได้รับการยอมรับว่าเป็นคู่แข่งของทั้ง Windows Live Spaces, Yahoo! 360, และ Facebook ในเวลาต่อมาก็ยังมี Hi5 ก้าวเข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญอีกด้วย
My Space
My Space คือ เว็บบล็อก ที่ทาง msn ให้ผู้ที่ใช้ msn ได้เข้าไปใช้บริการกัน ก็มีคำถามต่ออีกว่า เจ้า web blog คืออะไร สำหรับ เจ้า Web Blog ผมอยากให้เรานึกง่ายๆ ว่ามัน คล้าย Dairy แต่ไม่ใช่นะครับ ย้ำ ว่า บล็อก ไม่ใช่ Dairy โดยบล็อกจะมีความหลากหลายมากกว่า เพราะในบล็อก ผู้ที่เป็นเจ้าของเนื้อที่นั้น จะเป็นผู้ที่ดูแลเนื้อหา ว่า จะให้เป็นแนวไหน หรือว่าจะเป็นเนื้อเรื่องอะไร ส่วนหลายคนเอามาเป็น Dairy นั้น ผิดไหม คงไม่ผิด คือมันแล้วแต่ว่า ผู้ดูแลจะเป็นอย่างไร
Face Book
facebook เป็นซอฟต์แวร์เครือข่ายลักษณะเดียวกับ myspace ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างหน้าเว็บของตัวเอง และใส่ข้อมูลต่างๆ ตามต้องการ (profile page) โดยระบบสามารถค้นหาผู้ใช้ที่มีความสนใจตรงกัน เช่นชอบฟังดนตรีประเภทเดียวกัน มีหนังในดวงใจเรื่องเดียวกัน ผู้ใช้สามารถเพิ่มหรือลบลิงก์ไปสู่ผู้ใช้คนอื่น เพิ่มเป็นเครือข่ายทางสังคมอินเตอร์เน็ตในหน้าเว็บของ facebook มีส่วนประกอบหลักคือส่วนของข้อมูลผู้ใช้ ส่วนแสดงจำนวนเพื่อนในเครือข่าย กิจกรรมที่สนใจ และพื้นที่สาธารณะ (ที่เรียกว่า wall) ซึ่งผู้เข้าเยี่ยมชมสามารถเขียนข้อความไว้ได้ ข้อความบน wall นี้ผู้ใช้สามารถกำหนดให้เพื่อนในเครือข่ายเห็นหรือเปิดให้ทุกคนเห็นก็ได้ นอกจากนี้ facebook อนุญาตให้ผู้ใช้งานอัพโหลดรูป และให้ผู้ใช้ตั้งกลุ่มทางสังคม หรือแฟนคลับต่างๆ ได้ด้วยระบบของ facebook บวกกับกลุ่มเป้าหมาย จุดประเด็นทางสังคมมาก
Bebo Bebo
เป็น เครือข่ายทางสังคมแห่งยุคอนาคตที่ทำให้นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาและ มหาวิทยาลัยสามารถติดต่อกับเพื่อน หาเพื่อนที่ขาดการติดต่อกันไปนาน และพบปะกับผู้คนใหม่ๆ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ในเวลาแค่ 7 เดือน เครือข่ายทางสังคมแห่งนี้ก็มีสมาชิกจดทะเบียนมากกว่า 22 ล้านรายที่เข้ามาดูหน้าเว็บเพจถึงกว่า 700 ครั้งต่อ Bebo เป็น Social Network ที่ถูกออกแบบมาดี โทนสีของเว็บไซต์ดูแล้วสบายตา ใช้งานง่าย มีการจัดระบบติดต่อผู้ใช้ได้ดี คนที่ไม่มีพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้แบบไม่ติดขัด รูปร่างหน้าตาของบล็อกดูไม่รกหูรกตา รองรับการปรับแต่งได้หลากหลาย
Twitter
ทวิตเตอร์ คือเว็บไซต์ที่ให้บริการ blog สั้น หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า Micro-Blog ซึ่งสามารถให้ผู้ใช้ส่งข้อความของตนเอง ให้เพื่อน ๆ ที่ติดตาม twitter ของเราอยู่อ่านได้ และเราเองก็สามารถอ่านข้อความของเพื่อน หรือคนที่เราติดตามเค้าอยู่ได้ ซึ่ง twitter ก็ถือได้ว่าเป็นเว็บไซต์ประเภท social Media ด้วยเช่นกัน ในรูปแบบของ twitter นี้ ที่เรียกว่าเป็น blog สั้นก็เพราะว่า twitter ให้เขียนข้อความได้ครั้งละไม่เกิน 140 ตัวอักษร ซึ่งข้อความนี้เมื่อเขียนแล้วจะไปแสดงอยู่ในหน้า profile ของผู้เขียนนั่นเอง และจะทำการส่งข้อความนี้ไปยังสมาชิกที่ติดตามผู้เขียนคนนั้นอยู่ (follower) โดยอัตโนมัติ
m-Learning
การเรียนรู้แบบเคลื่อนที่ (mobile learning) เป็นการจัดการเรียนการสอน หรือการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านคอร์สแวร์ที่นำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียน การสอนผ่านเทคโนโลยีเครือข่ายแบบไร้สาย (wireless telecommunication network) และเทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลา โดยผ่านสัญญาณแบบไร้สายที่มีบริการตามจุดต่างๆของมหาวิทยาลัยและภายนอก มหาวิทยาลัย (Access Point) ผู้เรียนและผู้สอนใช้อุปกรณ์ประเภทเคลื่อนที่ได้ที่มีความสามารถในการเชื่อม ต่อกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย (Wireless Lan) ได้แก่ Notebook Computer, Portable computer, PDA/PAD Phone, Tablet PC, Cell Phones /Cellular Phone ในการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการเรียน รู้ด้วยผู้เรียนเอง
U-learning
Ubiquitous ( ยูบิควิตัส ) เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า อยู่ในทุกแห่ง หรือมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง Mark Weiser (มาร์ค ไวเซอร์) แห่งศูนย์วิจัย Palo Alto ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำนิยาม Ubiquitous Computing (ยูบิควิตัสคอมพิวติง) ไว้ว่า หมายถึงกระบวนการบูรณาการคอมพิวเตอร์เข้ากับ Physical World อย่างไร้ของเขต การพัฒนาสิ่งเหล่านี้ทำให้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน
สื่อ e-media
สื่อ อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic media) หมายถึง สื่อที่บันทึกสารสนเทศด้วย วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อาจอยู่ในรูปของ สื่อบันทึกข้อมูลประเภทสารแม่เหล็ก เช่น แผ่นจานแม่เหล็กชนิดอ่อน (floppy disk) และสื่อประเภทจานแสง (optical disk) บันทึกอักขระแบบดิจิตอลไม่สามารถอ่านได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บันทึกและอ่านข้อมูลที่นี้ เราลองมาพิจารณาถึง ข้อดี-ข้อเสีย ของสื่อประเภทนี้ว่า เป็นอย่างไรบ้างเพื่อจะได้เป็นแนวทางในการนำมาใช้ประกอบในการเรียนการสอนและ การฝึกอบรมและจะได้นำมาเป็นแนวทางในการออกแบบและสร้างสื่อประเภทนี้ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
Asynchronous Learning – สถานการณ์การเรียนรู้ใดๆที่ปฏิสัมพันธ์ถูกหน่วงเวลาออกไป ยังประโยชน์ให้ผู้เรียนสามารถร่วมกิจกรรมการเรียนได้ตามเวลาว่างของพวกเขา และไม่จำเป็นต้องอยู่ ณ สถานที่เดียวกับครูผู้สอน อาจอยู่ในรูปแบบของcorrespondence cou rse หรือ eLearning ปฏิสัมพันธ์การโต้ตอบกันอาจใช้เทคโนโลยีได้หลากหลายรูปแบบ เช่น กระดานสนทนา
Chat — การสื่อสารด้วยตัวอักษรระหว่างสมาชิกของบริการ online ข้อความจะถูกส่งถึงกันระหว่างสมาชิกในแบบ real-time เสมือนเป็นการสนทนา โดยใช้การพิมพ์ด้วยถ้อยคำสั้นๆ
cLearning หรือ c-Learning — Classroom learning การเรียนในห้องเรียน เคยเป็นเพียง “learning” แต่ขณะนี้ เราจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง cLearning กับ eLearning
Computer-Assisted Instruction (CAI) — การสอนโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อ มักถูกใช้เพื่ออ้างอิงถึงการฝึกหัดและฝึกฝน สอนพิเศษ หรือกิจกรรมการจำลองสถานการณ์ที่นำเสนอโดยตัวมันเอง หรือนำเสนอเป็นส่วนเสริมให้กับการสอนแบบปกติที่สอนโดยครู
Computer-Based Training (CBT) – การฝึกอบรมหรือการสอนโดยมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นผู้สร้างแรงจูงใจและ feedback แทนที่จะเป็นครูผู้สอนจริงๆ CBT อาจอยู่ในรูปของ CD-ROM, LAN หรืออินเทอร์เน็ต การสร้าง กระทำโดยกลุ่มบุคคลรวมถึงนักออกแบบการสอน (instructional designers) และมักจะมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาสูง
Correspondence Course - หลักสูตรทางไกลเรียนโดยใช้จดหมายสำหรับการโต้ตอบและเพื่อส่งงานที่ได้รับมอบ หมาย ชั้นเรียนทางไปรษณีย์แบบนี้ได้รับความนิยมมากในช่วงระหว่างปี 1890’s
Discussion Boards - สถานที่ประชุมบนอินเทอร์เน็ตหรืออินทราเน็ต ที่ซึ่งผู้ใช้สามารถทิ้งข้อความไว้ให้ผู้ใช้คนอื่นๆได้อ่าน
Distance Education – กระบวนการอย่างเป็นทางการของ distance learning คำนี้มีนัยตามประเพณีหมายถึงระดับการศึกษาชั้นสูง คืออุดมศึกษา
Distance Learning – การเรียนซึ่งผู้สอนและผู้เรียนไม่ได้อยู่ณ สถานที่เดียวกัน อาจเป็น synchronous หรือ asynchronous อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ อาจประกอบด้วย correspondence วิดีโอ หรือการถ่ายทอดผ่านดาวเทียม หรือ eLearning มักใช้กับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
eLearning หรือ e-Learning – การเรียนใดๆที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย (LAN, WAN หรืออินเทอร์เน็ต) เพื่อการนำส่ง (delivery) การมีปฏิสัมพันธ์ (interaction) หรือเพื่อความสะดวก นี่หมายรวมถึง distributed learning, distance learning (ที่ไม่ใช่ correspondence) CBT ที่ส่งผ่านเครือข่าย และ WBT อาจอยู่ในรูปของ synchronous, asynchronous, instructor-led หรือ computer-based หรือการผสมผสานกัน
Informal/Formal Learning – Formal learning คือชั้นเรียน การสัมมนา หลักสูตรการเรียนรู้ด้วยตนเอง – ทุกคนรู้จักมันในฐานะของ “การศึกษาเล่าเรียน” Informal learning คือนั่งอยู่บนเครื่องทำน้ำเย็น ที่เกมหมากรุก การขอความช่วยเหลือจากคนในห้องข้างๆ การร่วมด้วยช่วยกันแก้ปัญหา การจ้องมองดูผู้เชี่ยวชาญ หรือการแบ่งปันคอมพิวเตอร์ในการเรียน eLearning
Internet-Based Training – การส่งเนื้อหาทางการศึกษาผ่านเว็บบราวเซอร์ บนอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต หรือเอ็กซทราเน็ต Internet-based training จัดเตรียมการเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลการเรียนที่อยู่ภายนอกหลักสูตร เช่น เอกสารอ้างอิง, email, discussion boards และ discussion groups มันสร้างข้อได้เปรียบของ computer-based training ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งข้อได้เปรียบของ instructor-led training คำ Internet-based training นี้ มีความหมายเหมือนกันกับ Web-based training และ online training
Knowledge Management – การจับ การรวบรวม และการจัดเก็บความรู้และประสบการณ์ของพนักงานแต่ละคนและกลุ่มพนักงานภายใน องค์กร แล้วทำให้มันพร้อมสำหรับคนอื่นๆในองค์กร ที่จะนำไปใช้ได้ สารสนเทศดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลพิเศษเรียกว่า knowledge base
Synchronous Learning – การเรียนรู้ใดๆที่ปฏิสัมพันธ์เกิดขึ้นใน real-time ในเวลาเดียวกัน นี่ทำให้ผู้เรียนต้องเข้าเรียนตามตารางเวลาที่กำหนด อาจดำเนินในห้องเรียนแบบเก่า หรือส่งผ่านทางเทคโนโลยี distributed หรือ eLearning
Web-Based Training (WBT) - การฝึกอบรมซึ่งถูกส่งผ่านไปบนเครือข่าย (LAN, WAN หรืออินเทอร์เน็ต) อาจเป็น Instructor-led หรือ Computer-Based อย่างใดอย่างหนึ่ง คล้ายคลึงมากกับ eLearning แต่มีนัยไปข้างว่า เป็นการเรียนรู้ในระดับผู้ประกอบอาชีพแล้ว หรือทำงานบริษัท
Webucation — การศึกษาผ่าน World Wide Web บางครั้งเรียกว่า e-education คำใหม่ๆส่วนมากที่ขึ้นต้นด้วย Web- มักมีอายุสั้น แต่คำนี้ดูเป็นข้อยกเว้น หมายถึงหลากหลายวิธีในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสนับสนุนการเรียนทางไกล โดยเฉพาะการนำการศึกษามาสู่กลุ่มคนที่ขาดโอกาส อย่างไรก็ดี มันยังรวมถึงระบบการบริหารโรงเรียน ซอฟแวร์ทางการศึกษา และวิธีต่อสายให้กับห้องเรียน
บทสรุป
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือเอนกประสงค์ที่นำไปประยุกต์ใช้ได้เกือบทุกเรื่อง และที่สำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือเป็นเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุน ให้เกิดการเรียนรู้ได้เร็ว เป็นเรื่องมือที่ให้เด็กนักเรียนได้ฝึกทักษะ กระตุ้นให้เกิดการคิดเพื่อแก้ปัญหา ผู้เรียนเลือกที่จะเรียนรู้ได้ตามความถนัด ความชอบ เพราะคนที่จะเรียนรู้ได้ดีในเรื่องที่ตนเองสนใจชอบที่จะเรียนรู้ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือส่งเสริมในลักษณะนี้ได้ด้วยตนเอง จึงสอดคล้องกับแนวการปฏิรูปการศึกษาที่เน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางและการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทุกคนจะต้องเรียนรู้ความเป็นไปในปัจจุบัน รู้จักแยกแยะ และเลือกที่จะเรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม
การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับผู้ที่มีพื้นความรู้ทางคอมพิวเตอร์ไม่มากนัก เช่นกรณีของเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ครูหรือผู้รู้ยังต้องแนะนำบ้างก่อนที่จะปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตนเอง สิ่งที่ผู้ใช้ทุกคนควรมีพื้นความรู้นั้นก็คือการปิดเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้เมาซ์ควบคุมการใช้งาน การใช้คีย์บอร์ดเมื่อต้องพิมพ์ข้อมูลหรือบันทึกข้อมูลบางอย่าง เช่นผู้ใช้ควรจะได้ทราบว่า เมื่อตัวชี้ที่เลื่อนด้วยเม้าซ์นั้นเมื่อชี้ไปที่จุดใดแล้วคลิกขวาแล้ว จะมีตัวบอกว่าที่จุดนั้นทำอะไรได้บ้าง และเลือกรายการทำงานได้ ถ้าคลิกปุ่มซ้ายอาจจะครั้งเดียวหรือสองครั้งเร็วๆ นั้นหมายถึงการสั่งให้ทำงานหรือรันโปรแกรม เป็นต้น
การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับผู้ที่มีพื้นความรู้ทางคอมพิวเตอร์ไม่มากนัก เช่นกรณีของเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ครูหรือผู้รู้ยังต้องแนะนำบ้างก่อนที่จะปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตนเอง สิ่งที่ผู้ใช้ทุกคนควรมีพื้นความรู้นั้นก็คือการปิดเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้เมาซ์ควบคุมการใช้งาน การใช้คีย์บอร์ดเมื่อต้องพิมพ์ข้อมูลหรือบันทึกข้อมูลบางอย่าง เช่นผู้ใช้ควรจะได้ทราบว่า เมื่อตัวชี้ที่เลื่อนด้วยเม้าซ์นั้นเมื่อชี้ไปที่จุดใดแล้วคลิกขวาแล้ว จะมีตัวบอกว่าที่จุดนั้นทำอะไรได้บ้าง และเลือกรายการทำงานได้ ถ้าคลิกปุ่มซ้ายอาจจะครั้งเดียวหรือสองครั้งเร็วๆ นั้นหมายถึงการสั่งให้ทำงานหรือรันโปรแกรม เป็นต้น
บริการเครือข่ายสังคม (อังกฤษ: social network service) เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ ในการสร้างเครือข่ายสังคม สำหรับผู้ใช้งานในอินเทอร์เน็ต เขียนและอธิบายความสนใจ และกิจการที่ได้ทำ และเชื่อมโยงกับความสนใจและกิจกรรมของผู้อื่น ในบริการเครือข่ายสังคมมักจะประกอบไปด้วย การแช็ต ส่งข้อความ ส่งอีเมล วิดีโอ เพลง อัปโหลดรูป บล็อก การทำงานคือ คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลพวกนี้ไว้ในรูปฐานข้อมูล sql ส่วน video หรือ รูปภาพ อาจเก็บเป็น ไฟล์ก็ได้ บริการเครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมได้แก่ ไฮไฟฟ์ มายสเปซ เฟซบุ๊ก ออร์กัต มัลติพลาย โดยเว็บเหล่านี้มีผู้ใช้มากมาย เช่น ไฮไฟฟ์เป็นเว็บไซต์ที่คนไทยใช้มากที่สุด ส่วนบริการเครือข่ายสังคม ที่ทำขึ้นมาสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ คือ บางกอกสเปซ ในขณะที่ออร์กัตเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศอินเดีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น